ความเชื่อมโยงระหว่างไขมันหน้าท้องกับอาการหัวใจวายซ้ำแล้วซ้ำอีก

ถ้าเว็บบอร์ดของท่านเกี่ยวกับ สุขภาพและความสามารถ สามารถแนะนำไว้ในหมวดนี้ ไม่ว่าจะเป็น Alternative, Beauty, Dentistry, Fitness & Nutrition, Medical, Pharmaceuticals ท่านสามารถลงได้ในหมวดนี้

Moderator: phpbb, mindphp, ผู้ดูแลกระดาน

ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
ottery
phpBBThailand Newbie
phpBBThailand Newbie
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ม.ค. 2021, 14:39

ความเชื่อมโยงระหว่างไขมันหน้าท้องกับอาการหัวใจวายซ้ำแล้วซ้ำอีก

โพสต์ โดย ottery »

ไขมันหน้าท้องสามารถทำให้เกิดอาการอุดดันของหลอดเลือดจนทำให้มีอาการความดันโลหิตสูง , น้ำตาลในเลือดสูง , และมีภาวะดื้อต่ออินซูลินรวมไปถึงการเพิ่มขึ้นของระดับไขมันในเลือด และก็ยังอาจจะมีปัจจัยอื่นที่นักวิจัยยังหาไม่พบกันอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะยังเป็นที่ไม่ชัดเจนแต่ตัวผู้ที่วิจัยเรื่องนี้ ก็ยังคิดว่าควรใช้การวัดรอบเอวเพื่อวัดระดับความเสี่ยงของผู้ป่วย

ผลการวิจัย
มีผลการวิจัยใหญ่ซึ่งถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร “European Journal of Preventive Cardiology” ซึ่งไม่ได้ดูที่อาการหัวใจวายเพียงอย่างเดียวแต่ยังดูไปถึง โรคหลอดเลือดสมองชนิดสมองขาดเลือดและ โรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้หลายการหัวใจวายอีกด้วย
การวิจัยครั้งนี้มีอาสาสมัคร 22,000 คน มีอายุในช่วง 35-77 ปี ทำให้มันเป็นงานวิจัยที่ใหญ่มากและมีผู้ชายเข้าร่วมการวิจัยถึง 17,000 คน โดยมีการเฝ้าดูอาการของพวกเขานานถึง 4 ปี หลังจากที่พวกเขามีอาการหัวใจวายโดยไปเก็บข้อมูลกันถึงโรงพยาบาล
มีการเก็บข้อมูลครั้งแรกหลังจากที่อาสาสมัครมีอาการหัวใจวายไปได้ 4-10 สัปดาห์ และครั้งที่สองในช่วง 12-14 เดือนหลังอาการหัวใจวาย โดยนักวิจัยได้ทำการวัดรอบเอว [ , วัดน้ำหนัก , ส่วนสูง , ระดับความดันโลหิต , จังหวะคลื่นไฟฟ้าหัวใจ , ระดับไขมันในเลือดและกลูโคส
พวกนักวิจัยได้ทำการคำนวนรอบเอวซึ่งเป็นหัวข้อหลักของการวิจัย โดยจะเริ่มวัดจากซี่โครงซี่สุดท้ายไปจนถึงยอดกระดูกเชิงกรานซึ่งเป็นบริเวณที่เด่นที่สุดของลำตัว

พบความเชื่อมโยง
นักวิจัยระบุความเชื่อมโยงของห่วงยางรอบเอวเข้ากับอาการหัวใจวายไม่ว่าจะในระดับธรรมดาหรือในระดับรุนแรง ถึงแม้ว่าผู้ป่วยจะมีความเสี่ยงอื่นเช่นการสุบบุหรี่หรือความดันโลหิตสูงด้วยก็ตาม
ทีมวิจัยได้ระบุว่าห่วงยางหน้าท้องเป็นตัวบ่งชี้สำคัญของอาการโรคหัวใจกำเริบได้มากกว่าโรคอ้วนทั่วไป อาสาสมัครผู้ชายส่วนใหญ่จะมีรอบเอว 94 เซ็นติเมตรหรือมากกว่านั้น ส่วนผู้หญิงจะมีรอบเอว 80 เซ็นติเมตรหรือมากกว่านั้น
โดยหมอได้มีการรักษาหรือบำบัดเพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการหัวใจวายเกิดขึ้นรอบสอง ซึ่งเป็นการบำบัดรักษาเพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำให้มีอาการของโรคหัวใจเช่น ความดันโลหิต , การมีระดับน้ำตาลและระดับไขมันในเลือดสูง เป็นต้น
ในการวิจัยพบว่ากลุ่มอาสาสมัครที่ยังคงมีรอบเอวมากขึ้น จะยังมีระดับความเสี่ยงในการหัวใจวายเกิดขึ้นซ้ำอีกสูงขึ้น เพราะความเสี่ยงที่มากับโรคอ้วนนั้นยังคงอยู่นั่นเอง

ปัจจัยเรื่องเพศก็เกี่ยวด้วย
อาสาสมัครที่เป็นผู้ชายจะมีความเสี่ยงมากกว่าผู้หญิง ซึ่งสำหรับผู้หญิงแล้วการมีรอบเอวระดับปานกลางจะช่วยลดความเสี่ยงได้ โดยมีการตั้งทฤษฎีว่าไขมันหน้าท้องจะส่งผลโ ดยตรงต่อไขมันที่เกาะอยู่กับอวัยวะภายในของผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องมีการวิจัยในเรื่องนี้กันต่อไป
ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: 103 และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน